“เพื่อน ๆ เราไม่ต้องกังวลเรื่องการมารักษาที่กวางโจว ประเทศจีนเลย ทางโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่สแตมฟอร์ดกว่างโจวมีทีมล่ามแปลภาษามืออาชีพคอยให้บริการตั้งแต่เข้ารับการรักษาจนถึงออกจากโรงพยาบาล เราไม่จำเป็นต้องกังวล ทีมล่ามจะคอยช่วยสื่อสารในเรื่องแผนการวินิจฉัย การรักษาของแพทย์ ฯลฯ” จาฟฟาร์กล่าวอย่างจริงจังและยิ้มแย้มในตอนท้ายของการสัมภาษณ์

ผมได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดในปี 2560 และแพทย์ท้องถิ่นแนะนำให้ทำการผ่าตัด

จาฟฟาร์ เป็นผู้ป่วยมะเร็งปอดอายุ 72 ปีจากจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ในปี 2560 เขาเริ่มมีอาการไอเป็นเลือดบ่อยครั้ง เขาจึงเดินทางไปรับคำปรึกษาและตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลท้องถิ่นในกรุงจาการ์ตาพร้อมครอบครัว เขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดระยะที่ 2 และพบเนื้องอกขนาดประมาณ 3 ซม.ในปอด แพทย์ท้องถิ่นแนะนำให้ทำการผ่าตัด แต่เขากังวลว่าการผ่าตัดจะเสี่ยงเกินไปและอาจทำให้เลือดออกมาก เขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่าชีวิตหลังการผ่าตัดจะยากลำบากเพียงใด ดังนั้นจึงปฏิเสธการผ่าตัด หลังจากปรึกษาหารือกับญาติและเพื่อนๆ แล้ว พวกเขาก็ช่วยหาวิธีการรักษาอื่นๆ บนสื่อโซเชียลมีเดีย

หลังจากนั้น จาฟฟาร์และญาติมิตรของเขาเดินทางไปยุโรป สหรัฐอเมริกา และประเทศอื่นๆ เพื่อทำการรักษา แต่ก็ล้มเหลวหมด แม้ว่าประเทศเหล่านี้จะมีเทคโนโลยีการรักษาที่ก้าวหน้า แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายสูงและการันตีผลการรักษาได้ยาก ณ จุดนี้พวกเขากำลังประสบปัญหาเรื่องการรักษา

จาฟฟาร์ ผู้ป่วยมะเร็งปอดจากอินโดนีเซีย

การผ่าตัดไม่ใช่ทางเลือกเดียวในการรักษามะเร็งปอดระยะเริ่มต้น

ขณะที่พวกเขากำลังจะยอมแพ้ ครอบครัวของจาฟฟาร์พบผู้ป่วยรายหนึ่งบน YouTubeซึ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดเช่นกัน เขาเล่าว่าเนื้องอกของเขาได้รับการควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพภายใน 3 เดือน ได้ประสบการณ์ใหม่ในการต่อสู้กับโรคมะเร็งจากการรักษาแบบบาดแผลเล็กที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่สแตมฟอร์ดกว่างโจว เมื่อจาฟฟาร์ได้ยินข่าวนี้ความหวังในใจก็ถูกจุดประกายอีกครั้ง

จาฟฟาร์และครอบครัวมาที่สำนักงานของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ดในจาการ์ตา เจ้าหน้าที่ในสำนักงานได้ต้อนรับพวกเขาอย่างดีและแนะนำให้พวกเขารู้จักกับเทคโนโลยีการรักษาแบบบาดแผลเล็ก 18วิธีของโรงพยาบาล จากนั้นจาฟฟาร์ก็ตระหนักได้ว่าการผ่าตัดไม่ใช่ทางเลือกเดียวในการรักษามะเร็งปอดระยะเริ่มต้น เขารู้สึกมีความสุขและโล่งใจ ในที่สุดก็ตัดสินใจรับการรักษา โดยมีเจ้าหน้าที่ในสำนักงานช่วยดำเนินเอกสารการเดินทางไปโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่สแตมฟอร์ดกวางโจว

การรักษาแบบบาดแผลเล็กทำให้เนื้องอกในปอดขนาด 3 ซม. "หายไป"

สองสัปดาห์ต่อมา จาฟฟาร์และภรรยาของเขาขึ้นเครื่องบินไปกวางโจว ประเทศจีน ทางโรงพยาบาลได้จัดบริการรับส่งให้พวกเขาเพื่อคลายความกังวลในการไปรับการรักษาในต่างประเทศ ในวันที่สองหลังจากเข้าโรงพยาบาล ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ MDTได้วินิจฉัยและวิเคราะห์อาการของจาฟฟาร์ทันทีโดยพิจารณาจากสภาพร่างกายและผลการตรวจร่างกายที่ผ่านมา และให้เขาเข้ารับการตรวจร่างกายอย่างละเอียดเพื่อดูความคืบหน้าของอาการของเขา

ก่อนอื่นจาฟฟาร์ได้รับการตรวจชิ้นเนื้อและรักษาด้วยความเย็น แพทย์จะแทงเข็มเข้าไปในเนื้องอกภายใต้การนำทางของ CTและปล่อยก๊าซอาร์กอนเพื่อลดอุณหภูมิในเนื้องอกอย่างรวดเร็วจนเนื้องอกกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง จากนั้นจึงปล่อยก๊าซฮีเลียมเพื่อเพิ่มอุณหภูมิที่ก้อนเนื้อ หลังจากการทำอุณหภูมิอย่างน้อย 2 รอบ เนื้องอกในปอดก็ถูกแช่แข็งด้วยความเย็นจัด

ผลการตรวจชิ้นเนื้อพบการแพร่กระจายตัวของมะเร็งในปอดด้านซ้าย เมื่อพิจารณาจากสภาพร่างกายและสภาพของจาฟฟาร์แล้ว ทีมแพทย์ MDT ได้หารือกันว่าจะทำการรักษาด้วยวิธีบาดแผลเล็ก:การคีโมเฉพาะจุด

การคีโมเฉพาะจุด เป็นการสอดสายยางเข้าไปในหลอดเลือด ภายใต้การนำทางของเครื่อง CT จากนั้นจะฉีดยาเข้าไปที่เนื้องอกโดยตรงผ่านหลอดเลือดแดง ตัวยาจะเข้มข้นกว่าการคีโมทั่วร่างกาย 2-8 เท่า และมีประสิทธิภาพมากกว่า "การรักษาใช้เวลาทั้งหมดเพียง 15 นาทีก็เสร็จสิ้น ผมไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย"จาฟฟาร์พูดถึงความรู้สึกของเขาหลังการรักษาครั้งแรก แม้ว่ากระบวนการรักษาจะสั้น แต่ผลลัพธ์ก็น่าทึ่ง จาฟฟาร์รู้สึกว่าสภาพร่างกายของเขาค่อยๆดีขึ้น จากการตรวจพบว่าเนื้องอกในปอดหดตัวลง เขาเริ่มมุ่งมั่นที่จะเอาชนะมะเร็งปอดมากขึ้นเรื่อยๆ หลังการรักษาครั้งที่สอง แพทย์รายงานผลการตรวจพบว่าเนื้องอกในปอด "หายไปแล้ว"จาฟฟาร์กล่าวว่า “ตอนนั้นผมรู้สึกตื่นเต้นมากจนคุกเข่าลงขอบคุณพระเจ้า!

ผมคิดว่าผมคงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้มีชีวิตอีกครั้งที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด "

การคีโมเฉพาะจุดช่วยชีวิตคนที่ถูกวินิจฉัยว่าสามารถมีชีวิตได้เพียง "สองปี"

อาการของเขาได้รับการควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพมาประมาณ 6 ปี น่าเสียดายที่ในปี 2023จาฟฟาร์ เริ่มไออีกครั้งเนื่องจากการทำงานหนัก การสูบบุหรี่ และสาเหตุอื่นๆ และมีเลือดปนเล็กน้อยในน้ำลายของเขา การกลับเป็นซ้ำของมะเร็งปอดทำให้เขารู้สึกกังวลมาก เขาจึงรีบไปโรงพยาบาลจาการ์ตาเพื่อตรวจ CTและได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดระยะที่ 4 แพทย์ยังบอกด้วยว่าเขามีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงสองปีเท่านั้น เขามาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ดอีกครั้งเพื่อรับการรักษาโดยหวังว่าจะช่วยชีวิตเขาได้อีกครั้ง ด้วยเหตุนี้ จาฟฟาร์และครอบครัวจึงขึ้นเครื่องบินไปกวางโจว ประเทศจีนอีกครั้ง

การได้พบแพทย์ที่เป็นเหมือนสมาชิกในครอบครัวอีกครั้งทำให้ความกลัวของจาฟฟาร์ลดลง "แพทย์ที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ดเคยรักษาโรคมะเร็งปอดให้แก่ผมในปี 2560ผมเชื่อว่าคราวนี้พวกเขายังคงช่วยผมได้"ปัจจุบันจาฟฟาร์ได้รับการคีโมเฉพาะจุด 1 ครั้ง ในรายงานผลการตรวจแสดงให้เห็น 25%ของ เนื้องอกหายไป และมะเร็งปอดระยะที่ 4ได้ลดลงเป็นระยะที่ 3เขามีความมั่นใจในตนเอง แพทย์ และเทคโนโลยีทางการแพทย์เป็นอย่างมาก และหวังว่าจะได้กลับมามี "สุขภาพที่ดี"อีกครั้งโดยเร็วที่สุด

ทำไมถึงเลือกโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด?

ในระหว่างการสัมภาษณ์ จาฟฟาร์ กล่าวว่า "ผมเคยพักรักษาตัวในโรงพยาบาลมาหลายแห่ง และสภาพห้องผู้ป่วยก็แย่มาก แต่ห้องป่วยของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวแสตมฟอร์ดนั้นต่างออกไป ไม่กี่ปีมานี้ทางโรงพยาบาลมีการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆในห้องพัก ไม่ว่าจะเป็นตู้เซฟ ตู้เสื้อผ้า ฯลฯ คุณภาพด้านสุขอนามัยกับการบริการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน”

"โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่สแตมฟอร์ดกว่างโจวไม่เพียงมีทีมแพทย์มืออาชีพ ผู้ป่วยสามารถได้รับการรักษาที่ครอบคลุม แต่ยังได้รับการบริการอย่างเอาใจใส่ ในฐานะผู้ป่วยต่างชาติ คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเลย "